30 มิถุนายน 2558

เตรียมสอบ กพ. การเรียงประโยค

ฉบับนี้ยายจุ๋มไม่ได้มา แต่ฝากมาบอกว่าเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังเตรียมตัวสอบ กพ.อยู่นะคะ ที่สำคัญอย่าเครียดไปที่เดียวเชียวเพราะความเครียดนั้นมักจะสร้างปัญหามากกว่าสร้างปัญญานะเออ..

การสอบ กพ. จะแบ่งออกเป็นความรู้ความสามารถทั่วไปทางคณิตศาสตร์ ภาษาไทย และภาษาอังกฤษ โดยส่วนของคณิตศาสตร์และภาษาไทยนั้นจะรวมอยู่ในชุดเดียวกัน ในส่วนนี้คะแนนที่เราต้องทำได้คือมากกว่า 60 % ขึ้นไป ก็จะถือว่าสอบผ่าน และส่วนที่หลายคนกลัวหรืออาจจะพลาดถ้าไม่แม่นจริงก็คงจะเป็นตรงส่วนของภาษาไทยนี้เอง (เราเองก็เคยพลาดเหมือนกัน)

เพราะฉะนั้นเราจะต้องชัวร์ในหลักการ ม๊ะ..มาลุยกันเลย
เอาเรื่องการเรียงประโยค เพราะมันเป็นเรื่องที่ไม่ยากแต่ต้องอาศัยทริคนิดหน่อยที่จะช่วยให้ทำข้อสอบได้ง่ายและมั่นใจขึ้น

หลักการเรียงประโยคก็คือ ประธาน+ กริยา+ กรรม เท่านี้เอง ที่เหลือก็เป็นพวกที่ไปขยายตรงนั้นตรงนี้

ลำดับขั้นตอนวิธีการดูตามนี้เลย เราเห็นว่าวิธีการนี้เขียนไว้ดีและเข้าใจง่ายอยู่แล้วก็เลยขอยกมาแล้วปรับเพิ่มให้ดูง่ายขึ้น   (ดัดแปลงจาก : http://www.slideshare.net/valrom/ss-2982993) 


ขั้นที่ 1 (การหาประโยคแรก หรือประโยคที่ 1) มีหลักดังนี้

     1. ประโยคที่ขึ้นต้นด้วย “การ”
                -   การมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองต้องได้รับอนุญาต
                -   การวิ่งออกกำลังกายดีต่อสุขภาพ

    2. หาคำนามเฉพาะ (ถ้ามี  2 คำ ให้เอานามที่มีความหมายกว้างขึ้นต้นเสมอ
                -   โครงสร้างการปกครองของประเทศไทยกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ
                -   ยูนานเป็นดินแดนแห่งภูเขา
  
    3. หาประโยคที่มี เครื่องหมายคำพูด “.......”
                -   คำว่า “ตำรวจ” ไม่ปรากฏแน่ชัดว่านำมาใช้ครั้งแรกเมื่อใด

    4. ใน + คำนาม
                -   ในเนื้อของถ่านหินยังมีสารอนินทรีย์เจือปนอีกหลายอย่าง
                 เนื้อที่ตามมาเป็นคำนาม

    5. เพื่อ (ใช้ขึ้นต้นได้ถ้าดูประโยคอื่นแล้วเห็นว่าไม่น่าจะใช้ได้)

     คำเชื่อมห้ามนำมาขึ้นต้นประโยคเลยเป็นอันขาดนะ เช่น กับ แต่ และ ซึ่ง ที่ ฯลฯ

ขั้นที่ 2 (การหาประโยคสุดท้าย หรือประโยคที่ 4) มีหลักดังนี้
        1. ................. เป็นต้น
                 -   เช่น น้ำ น้ำมัน และลม เป็นต้น
        2. ..............ทั้งหมด, .................ทั้งสิ้น
                 -   ซึ่งมีหน้าที่ตรวจสอบเนื้อหาทั้งหมด
        3. ...............ด้วย, ..................อีกด้วย
                 -   พลอยได้รับความกระทบกระเทือนไปด้วย
         4. ...............มากที่สุด, ................มากยิ่งขึ้น
                 -   เพื่อให้บรรลุเป้าหมายมากยิ่งขึ้น
         5. ช่วงเวลา เช่น ปี พ.ศ. (ถ้าขึ้นประโยคแรกไม่ได้ให้ไว้ประโยคสุดท้าย)

ขั้นที่ 3 (การหาประโยคที่ 2 หรือ ประโยคที่ 3) ข้อสอบมักชอบออกแบบนี้ วิธีการหามีดังนี้
         1. ถ้าข้อความสุดท้ายของประโยคเป็นคำนาม ประโยคที่ตามมาจะต้องเป็นคำสันธาน คำ
             สรรพนาม หรือ คำกริยา
                  ตัวอย่าง
                   -    สมองเป็นส่วนประสานการทำงานของตาและหู (หูเป็นคำนาม)
                   -    กับการทำงานกับอวัยวะอื่น (กับ เป็นคำสันธานหรือคำเชื่อม)

          2. ประโยคแรกเป็นข้อมูลทั่วไป ประโยคที่ตามมาจะต้องเป็นประโยคที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น
                   -   เขาไปโรงเรียน      ----------     เขาไปโรงเรียนมหาดไทย


เรามาลองดูโจทย์กัน

ตัวอย่างจาก แบบทดสอบวิชาความสามารถทั่วไป และวิชาภาษาไทย

ข้อความใดเป็นลำดับที่ 3
  
  
  
  



ลองทำโจทย์สัก 10 ข้อก็พอจะเห็นแนวแล้วค่ะ


เมื่อวานเราอ่านหนังสือเล่มหนึ่งในนั้นมีข้อความของ ซาราซาเต้ นักไวโอลินผู้มีชื่อเสียงโด่งดังจากสเปน ขออนุญาตยกประโยคของเค้ามาเลยน่ะ  "Genius! For thirty-seven years I've practiced fourteen hours a day, and now they call me a genius." เท่านี้เองค่ะ ที่ความเก่งกาจต้องการก็คือ คนที่มุ่งมั่นฝึกฝน ความน่ากลัวไม่ได้อยู่ที่คนที่ฝึกแตะ 10,000 ท่าทุกวัน แต่เป็นคนที่ฝึกท่าเดียว 10,000 ครั้งทุกวันต่างหาก (อันนี้คำพูดใครหว่า..อัลไซเมอร์ซะแล้ว)

ไม่มีใครล้มเหลวเพราะลงมือทำ มีแต่ล้มเหลวเพราะหยุดทำนะคะ สู้ๆค่ะ







เฉลยข้อนี้คือ ข้อ 2 เป็นประโยคที่ 3 ค่ะ

29 มิถุนายน 2558

ต้มยำกุ้งสูตรยายจุ๋ม ความอร่อยง่ายๆ ที่คุณก็ทำได้

ยายจุ๋มสอนทำต้มยำกุ้ง มันดูช่างง่ายดายและรวดเร็วเสียจนอดที่จะขอเก็บสูตรมาฝากเพื่อนๆ ไม่ได้แถมรสชาติอร่อยอีกต่างหาก เราเองก็ทำพวกอาหารที่เป็นประเภทยำๆ ไม่ค่อยจะได้เรื่องอยู่แล้ว งานนี้เลยแอบคิดว่าจะจำเอาไว้ไปทำให้แม่กินสักถ้วย

วัตถุดิบที่ใช้ ได้แก่ ตะไคร้ ใบมะกรูด ข่า พริกขี้หนู  เห็ด กุ้ง น้ำปลา มะนาวแป้น  (ยายว่ามันจะหอมอร่อย) และน้ำสะอาด ส่วนใครชอบผักชีก็ใส่เพิ่มได้ตามสบายเลย แต่ยายไม่ได้ใส่

ต้มยำกุ้ง ยายจุ๋ม tom yum kung
มะนาว ใบมะกรูดเตรียมลงหม้อ

http://mygrandmam.blogspot.com/
เห็ด
ยายจุ๋ม ต้มยำกุ้ง
กุ้ง

พอเตรียมวัตถุดิบครบก็เริ่มบรรเลงเลย ยายจุ๋มล้างตะไคร้หั่นท่อนยาวใส่ไปกับน้ำที่ต้มในหม้อ ซึ่งต้องขอแก้เรื่องตะไคร้หน่อยเพราะยายมาอ่านแล้วเกิดอาการฉุนเฉียวขึ้นมาลมแทบจับ รีบไลน์มาสั่งให้แก้ด่วน ที่จริงแกใส่ตะไคร้ 6 ต้นหั่นแล้วทุบ  2 ต้นมันจะไม่หอม ส่วนน้ำประมาณ 3 ถ้วยน่ะค่ะ ต้มจนเดือดได้กลิ่นหอมตะไคร้ก็ใส่เห็ดลงไปก่อน สักพักก็ใส่กุ้งตามลงไป กุ้งใช้เวลาต้มไม่นานพอเปลี่ยนสีก็จะเริ่มสุก ยายว่าเกือบลืมใส่ใบมะกรูดเลยหยิบใบมะกรูดที่เตรียมไว้มาฉีกใส่ไปประมาณ 10 ใบจากที่เตรียมไว้ก็ใส่หมดเลย ปล่อยให้เดือดสักพักก็ตักออกมาปรุงรสด้วยมะนาวแป้น น้ำปลา ส่วนความหวานจะได้จากเห็ดและกุ้งที่ช่วยทำให้รสกลมกล่อมขึ้น อย่าลืมทุบพริกพอแตกใส่ลงไปให้เผ็ดร้อนตามใจชอบ เท่านี้ก็เป็นเสร็จสิ้นเมนูต้มยำกุ้งแสนอร่อย


http://mygrandmam.blogspot.com/
หม้อต้มยำกำลังเดือด

ตอนเราไปขอถ่ายรูปยายว่าขอเติมน้ำปลาอีกนิดเพื่อความกลมกล่อม ลดรสเปรี้ยวที่มันพุ่งปรี้ดโด่เด่ ให้มันละเมียดละไมขึ้น ช้อนแรกที่ลองชิมมันได้รสชาติของมะนาวสดๆ กับความกลมกล่อมจากกุ้งสด เห็ด และน้ำปลาตามมาติดๆ  ด้วยกลิ่นของตะไคร้ ใบมะกรูด และพริก หอมกรุ่นชวนหิวมาก

ต้มยำกุ้ง ยายจุ๋ม
เสร็จแล้วต้มยำของยายจุ๋ม


สุดท้ายเลยต้องขอซดสักถ้วย บวกด้วยข้าวสวยร้อนๆ และไข่ดาวอีก 1 ฟอง
สูตรนี้ใครอยากลองชิมก็เตรียมของขึ้นเตาได้เลยค่ะ ไม่เกิน 20 นาทีได้อร่อยแน่นอน


17 มิถุนายน 2558

10 เรื่องเด่นที่ออกสอบ กพ. มีอะไรบ้างมาดูกัน

ครั้งที่แล้วโพสต์เตรียมตัวสอบ กพ.อย่างไรให้ผ่าน วันนี้เราก็เลยอยากจะเขียนเพิ่มให้อีกถ้าหากว่ามันจะช่วยให้เพื่อนๆ สอบผ่านกันอย่างสบายๆ หรืออย่างน้อยก็เป็นแนวทางในการอ่านหนังสือเตรียมสอบ ลดความกังวล อะไรได้บ้างอ่ะ กับ 10 เรื่องที่มักจะออกสอบ กพ. เสมอ..อย่างที่บอกว่าเราสมัครสอบไป 3 ครั้ง ต่อเนื่องกันก็เห็นมันออกสอบตลอดนะ

ทีนี้มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง

10 เรื่องเด่นที่มักเจอในการสอบ กพ.

1. อนุกรม มันจะอยู่ข้อแรกๆ เลยทีเดียวใครทำใจไม่ได้หรือไม่ถนัดเปิดข้ามไปก่อนเลยน่ะ บางคนมั่วแต่สนใจหาคำตอบกับอนุกรมที่บางข้อก็ใช้เวลานิดเดียวก็ได้คำตอบ แต่บางข้อเสียเวลามากทีเดียว แบบนี้จะทำให้เราทำข้อสอบไม่ทันน่ะ วิธีที่ทำกันทั่วๆ ไปก็คือหาเวลาเฉลี่ยเพื่อทำโจทย์แต่ละข้อให้ทันภายในระยะเวลาที่กำหนด
 2.เงื่อนไขทางภาษา อันนี้มาเป็นโจทย์ยาวๆ เลยทีเดียว ออกแน่นอนยากง่ายแต่ะปีไม่ค่อยเท่ากันน่ะ แต่มา 5 ข้อตลอด ใครที่ไม่คุ้นชินกับการตอบคำถามประเภทจริง เท็จ ไม่แน่นอน เน้นว่าทำความเข้าใจกับการคำตอบให้เข้าใจน่ะ 
 3. คณิตศาสตร์ทั่วไป แบบพวกบัตรอวยพร แจกการ์ด จับมือ ปักเสา หาหัวสัตว์ ขาสัตว์ แบ่งกำไร ขาดทุน 
4. เงื่อนไขทางสัญลักษณ์ ออกเสมอ 5 ข้อ การตอบเหมือนเงื่อนไขทางภาษา 
5.  กราฟ ตาราง และแผนภูมิ ออกเสมอ 5 ข้อ ที่เจอมาเป็นตาราง อาจจะเป็นให้ข้อมูลการท่องเที่ยว และให้หาสัดส่วนปีนั้นกับปีนี้บ้าง ผลกำไรบ้าง 
6. การวิเคราะห์เหตุผลทางโอเปอร์เรต อันนี้ลองทำโจทย์สักยี่สิบข้อก็พอจะรู้แนวทางหาคำตอบได้ล่ะ 
7.การเรียงประโยค 
8.การสรุปความ ตีความ สาระสำคัญ โจทย์จะมีบทความมาให้สั้นยาว ถ้ามีเทคนิคและเตรียมตัวดีดี จะทำให้หาคำตอบได้เร็ว เน้นต้องมีสมาธิ ตอนเราสอบครั้งที่สอง เราเสียสมาธิช่วงนี้ก็
9.บทความสั้น
10.บทความยาว

ส่วนภาษาอังกฤษ
มีเติมคำในช่องว่าง แกรมม่า  คำศัพท์ Reading

เดี๋ยวคิดอะไรได้เพิ่มจะมาเขียนเพิ่มเติมให้อ่านใหม่นะ
ตอนนี้มีเวลาว่างก็อ่านหนังสือบ้าง ฟังเพลงบ้าง ชิวๆ น่ะอย่าเครียดๆ


หรือจะลองทำข้อสอบ กพ. ออนไลน์  


[ แบบทดสอบวิชาความสามารถทั่วไป และวิชาภาษาไทย ]
[ แบบทดสอบ ปริญญาตรี – ปริญญาโท ]
[แบบทดสอบ ปวช. – ปวส. ]





ทำไมจึงควรจะสอบผ่าน กพ. ภาค ก. ให้ได้ในครั้งแรก



4 เหตุผลที่ทำไมคุณจึงควรจะสอบผ่าน กพ. ภาค ก. ให้ได้ในครั้งแรก 
 

1 ครั้งแรกนั้นจะเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ความกังวล ความวิตกจริต และทั้งหมดนั้นมีความมุ่งมั่นรวมอยู่ด้วย เว้นเสียแต่ว่าคุณจะถูกพ่อแม่พี่น้อง ญาติผู้ใหญ่ เพื่อน หรือใครก็ไม่รู้บังคับให้สอบและคุณเองไม่อาจจะทำใจให้ตัวเองเกิดความรู้สึกที่อยากจะสอบให้ผ่านให้ได้


2 การสอบ กพ. ภาค ก จะเปิดสอบเพียงแค่ปีละ 1 ครั้งเท่านั้น ถ้าไม่ผ่านก็ต้องรอปีถัดไป และการรับสมัครสอบภาค ข.ของหน่วยงานราชการต่างๆ จะขึ้นบัญชีผู้สอบผ่านภาค ข แค่เพียงปีละครั้ง หรือ สองปีครั้ง ซึ่งหมายความว่า คุณจะพลาดโอกาสในการสอบครั้งๆ นั้นไปด้วย


3 ข้าราชการส่วนใหญ่จะรับสมัครผู้ที่มีอายุไม่เกิน 35 ปี เพราะฉะนั้นหากคุณเริ่มต้นเสียตั้งแต่เรียนจบปริญญาตรี โดยประมาณว่าเรียนจบอายุ 22 ปี คุณจะมีโอกาส สอบ กพ. ภาค ข และ ภาค ค เพื่อเข้าสู่การบรรจุเป็นข้าราชการ ถึง 13 ปี มากพอที่จะทำให้คุณสามารถสอบติดที่ไหนสักทีแน่นอน แต่ถ้าไม่ใช่ล่ะ คุณไปเริ่มต้นกับบริษัทเอกชน หรือนั่งทำงานส่วนตัว ตามหาความฝัน จนมาถึงวันหนึ่งที่คุณอยากจะเปลี่ยนอาชีพมารับราชการทำงานเพื่อแผ่นดิน ตอนที่อายุของคุณก็เริ่มมากแล้วคุณก็จะมีเวลาน้อยลงไปอีก


มีพี่คนนึง ทำงานเอกชนมาตลอดในตำแหน่งที่ดีทีเดียว แต่แล้ววันหนึ่งเกิดเจ็บป่วยแบบที่ต้องพักหยุดงานยาวๆ และไม่สามารถไปทำงานแบบนั้นได้อีกต่อไป จึงต้องลาออกมา เมื่ออาการเริ่มดีขึ้นเธอก็คิดที่จะหางานใหม่ อยากทำงานราชการ ทำให้เธอต้องไปสอบ กพ. ตอนนี้เธอมีอายุ 34 ปีแล้ว นั่นหมายความว่าเธอมีเวลาครั้งเดียวเพื่อที่จะสอบ กพ. ให้ผ่าน เพื่อนำผลไปใช้สมัครสอบภาค ข ภาค ค ต่อไป โดยเธอจะพลาดไม่ได้เลยสักครั้งเดียว ถ้าคุณอยู่ในสถานะการณ์แบบนี้มันคงจะกดดันมากใช่ไหม แต่ก็เอาอยู่รู้ว่าเตรียมตัวสอบ กพ.อย่างไร ให้ผ่าน


4. หมดความมุ่งมั่น เพื่อนๆ เราบางคนที่สอบไม่ผ่านในครั้งแรกมักล้มหายตายจากไปจากการสอบ กพ. หรือบางคนที่จิตใจไหวหวั่นมากเกินไปต่อเป้าหมายที่อยากจะชูธงในอนาคต ก็มักจะอยากๆ หายๆ หรือพูดอีกนัยหนึ่งคือ ความมุ่งมั่นที่จะสอบให้ผ่านไม่มากพอและประเมินข้อสอบ กพ.ต่ำไปจึงมักไม่ค่อยเตรียมตัวสอบอะไรมาก และสุดท้ายก็สอบไม่ผ่าน และไม่ไปสอบอีกเลย


เพราะฉะนั้นรีบสอบให้ผ่าน กพ. ภาค ก เพื่อจะได้เดินหน้าสู้ต่อใน ภาค ข และ ภาค ค. ต่อไป

16 มิถุนายน 2558

แววตาเป็นเพียงกระจกกั้นสิ่งที่อยู่ภายใน ??



แววตาที่แฝงความรู้สึกของเขาฉายชัดลงไปในความรู้สึกของเธอ พร้อมกันนั้นก็ได้แทรกผ่านอากาศมาชะล้างความชื่นชอบออกจากตัวเธอจนหมดสิ้นลงในเวลาเพียงเสี้ยววินาที เสียงประตูปิดลง ภาพปริศนาบนใบหน้านั้นบัดนี้ได้กระชากความรู้สึกตื่นเต้นของเธอหลุดลอกจนเหลือเพียงความคลางแคลง

เช้าวันใหม่เธอรู้ดีว่าไม่อาจเปลี่ยนแปลงสิ่งใดได้อีก นอกเสียจากภาวนาของให้ภาพนั้นเป็นอาการฝันกลางวันของเธอแต่เพียงผู้เดียว แต่ใครจะรู้ว่าฝันกลางวันครั้งนั้นมันคือฝันที่กำลังจะมีภาคต่อ  เรื่องต่างๆ ดำเนินไปเรื่อยๆ เธออาจจะพลิกสถานการณ์ต่างๆให้ดีขึ้นได้ หากเพียงเขาจะช่วย และมันก็เกือบไปได้สวย ติดเพียงที่เราไม่อาจทราบได้ว่าการกระทำที่พบเห็นนั้น เป็นเพียงภาพที่ถูกปรับแต่งขึ้นเพื่อราศีในสังคม หรือเป็นภาพสดที่มิมีการแต่งเติมเพิ่มความงามใดๆ

หัวใจของเขากำลังรู้สึกอะไร สมองของเขากำลังสั่งให้เขาทำอะไร เพราะหลายคร่าที่เธอพบกับความแตกต่าง เขาตอนนี้ไม่ใช่คนที่เธอชื่นชอบ ไม่เลยแม้แต่น้อย ช่างห่างไกล หรือระยะทางทำให้เขาห่างไกลจากการปรับแต่ง ความเหน็ดเหนื่อย ทำให้เขาแสดงธรรมชาติของตัวตนออกมา หรือเงินตรานั่นที่กำหนดพฤติกรรมของคน...........

7 มิถุนายน 2558

Whoscall ใครโทรมาหว่า??? บอกได้ใครโทรมาแม้ไม่มีในรายชื่อจัดเก็บ

 ยายมักชอบยื่นโทรศัพท์มาให้เราทำหน้าที่ scan คนโทรมา เพราะยายจุ๋มเบื่อปฏิเสธความมีน้ำใจของเซลล์ขายของ ที่โทรมาเสนอโปรโมชั่นนั้นนี่ให้กับยาย และต่อจากนี้ยายจุ๋มจะไม่ต้องใช้บริการเรา หรือใครใกล้ตัวเวลาเจอสายแปลกๆ โทรเข้าล่ะ เพราะเราจะบอกให้ยายใช้ Whoscall ใครโทรมาหว่า??? บอกได้ใครโทรมาแม้ไม่มีในรายชื่อจัดเก็บ

น่าจะเจอกันมาตั้งนาน.....ร้องเป็นเพลงเลยที่เดียวหลังจากพบกับ App นี้ Whoscall..ใครโทรมาหว่า??
 นอกจากมันน่าจะดีกับเรา ยายจุ๋ม และทุกคนมีสถานการณ์แบบนี้ หรืออาจจะหนีใครที่ไม่อยากพบเจอ พูดคุย.....แต่คงไม่ค่อยดีสำหรับเจ้าหนี้!!!!! ฮ่าๆ

คือว่า เราเองก็ไม่ได้มีเบอร์โทรศัพท์เก็บไว้ ในเครื่องมากมายขนาดนั้น ยิ่งในช่วงที่มีการติดต่อเข้ามาแล้วไม่ได้รับสาย แถมบางทียังเป็นเบอร์ที่ไม่ได้มีในสมุดโทรศัพท์ ก็ต้องมาตัดสินใจว่าจะโทรกลับไหม? อาจเป็นบริษัทขายประกัน บัตรนั่นนี้ หรือ เสนอขายแพ็คเก็จเสริมความงามอะไรพวกนั้น แต่ก็ไม่ทั้งหมดมันอาจจะเป็นสายที่ติดต่อเค้ามาจากคนที่เรารู้จัก ติดต่อเรื่องงาน คิดแบบนี้ก็โทรกลับไปแต่ไม่มีผู้รับสาย ทำให้ยิ่งสงสัย

แอพนี้จะบอกเราว่าต้นสายมาจากไหน ด้วยระบบฐานข้อมูลรายชื่อหมายเลขโทรศัพท์กว่า 700,000,000 หมายเลขเลยทีเดียวเชียว ใช้ได้ทั้งออนไลน์ และดาวน์โหลดมาใช้ออฟไลน์ก็ได้จร้า 





Whoscall เป็น app ฟรี สามารถดาวน์โหลดได้ตามนี้เลยจร้า

Android :http://bit.ly/whoscallgpth 
Windows Phone :http://bit.ly/whoscallwpth 
iOS :http://bit.ly/whoscalliosth





4 มิถุนายน 2558

อันตรายจากการกินสัปรด

ใครชอบกินสัปรดต้องระวังนะคะ
ยายจุ๋มบอกเราว่าสัปรดนั่นดี
ต้องกินบ่อย
ช่วยย่อย
และดีต่อผิวด้วย

ยายจุ๋ม
สัปรดรสอร่อย สีสวย

เพราะตอนเด็กกินแล้วมันแสบลิ้น เลยไม่ค่อยอยากกิน
แต่มาช่วงหลังสัปรดพัฒนาขึ้นมากจนแทบไม่เคยรู้สึกแสบลิ้นอีกเลย...

แต่ถึงสัปรดจะมีประโยชน์มากอย่างไรก็ตาม
เวลารับประทานก็ต้องระมัดระวังให้มาก
ทุกอย่างมีคุณและ มีโทษ

มิเช่นนั้นจะเป็นแบบนี้
ยายจุ๋ม

ไม้เสียบสัปรดจิ้มนิ้ว!!!!

2 มิถุนายน 2558

ยายผิดหวัง...เพราะบัตรเครดิตที่ร้านเปลี่ยนยาง

หลังจากที่นั่งรอยายจุ๋ม นั่งเม้าท์กับเพื่อนร่วมรุ่นอยู่นานก็ถึงเวลาเดินทางออกไปร้านสันติยางยนต์อีกครั้ง
นี้เป็นครั้งที่ 2 แล้วที่เรามาใช้บริการที่นี่้ ซึ่งก็ถือว่าเป็นร้านที่ให้บริการได้ประทับใจ มีน้ำดื่มเย็นเจี๊ยบบริการคนละขวด ห้องน้ำสะอาดดีมาก

เจ้าของร้านแนะนำให้เพิ่มความกว้างของยางเป็น 185/65 ขนาดขอบเท่ายางเดิม คือ 14  เลยจัด Bridstone EP200 มาต่อเส้น 2600 บาท อันที่จริงก็มีอีกหลายรุ่นที่ใส่ไได้กับรถเล็กอีโก้คาร์ของยายอ่ะน่ะ
แต่เพราะยายรีเควสมากๆ ว่าต้องนุ่มและเงียบ ก็เลยจบที่รุ่นนี้ 4 เส้น โดยพึ่งบริการสินเชื่อจากบัตรเครดิต
ตามสะดวก แต่พอเสียบบัตรเค้าไปมันแจ้ง บัตรหมดอายุ

ยายให้พี่ผู้หญิงมาเรียกเรา....ที่กำลังนั่งดูเข้าต้ังศูนย์กันอยู่ ...ดูค่าที่แสดงทางหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่อยู่ด้านหน้า....มีสีเขียว สีแดง สีเหลือง มีตัวเลขติดลบน้อยๆ ติดบวกบ้าง ดูไปก็งงไป คิดอยู่ว่าอีกหน่อยเราคงเข้าใจ...ว่าอะไรสำคัญไปกว่า..ไม่ใช่!!! ก็เดาอยู่ว่าค่ามันคงจะเท่าๆ กันจากข้างซ้ายและข้างขวา อะไรแบบนั้น หรือทุกค่ามันต้องจบที่ 0 หรือป่าว เพราะเรากำลังตั้งศูนย์นี่.... กำลังลุ้นอยู่ พี่เค้าก็เดินมาชี้มือไปที่ยาย แล้วบอกว่าพี่ผู้หญิงข้างในเรียก

เราก็คิดเข้าข้างตัวเองไปก่อนเลยว่ายาย จะเรียกเราทำไม หรือต้องการกำลังใจในระหว่างจ่ายเงิน..แต่ไม่น่าใช่ ยายชอบพูดกับเรา..เวลาซื้อของอะไรสักอย่าง...ให้แสดงอาการให้มันมั่นใจหน่อยเส่!!! แบบนี้แล้วยายก็แสดงให้ดู..แบบยืดๆ อ่ะ แล้วก็เลือกของไม่พอใจก็ไม่เอา เพราะเราเป็นคนจ่ายตังค์ไง..
แล้วนี่ยายมาเรียกเราทำไม..สมองก็คิดหาเหตุผล เท้าก็เดินไปหายาย
เธอบัตรเครดิตฉันมันขึ้นหมดอายุอ่ะ....ยายยิงคำพูดรั่วมาที่ฉัน
อ้าว..หรอ..
ครับ..คุณเจ้าของร้านเสริม
ลองโทรไปคุยกับบัตรหน่อยสิ..ยายต่อ

 เราดูที่บัตรมันขึ้น 06 ปีนี้ ก็แสดงว่ามันหมดแล้วสิ
แต่ยายว่ามันน่าจะหมดสิ้นเดือนนี้สิ
อืมก็ดูมีเหตุผล....เราก็เลยต้องกดโทรศัพท์ไปถามเสียให้จบเรื่อง

ได้ความว่าเค้าส่งบัตรใหม่มีให้ยายแล้ว และอาจจะตัดบัตรนี้ไปแล้วมั้ง..ยายก็เลยต้องให้
เอาบัตรเรารูดแทนไป...และเราผู้ซึ่งยังไม่เคยมีบัตรหมดอายุ ก็ได้รู้ว่าเวลาบัตรหมดอายุ..เราจะทำอย่างไร และทางเจ้าของบัตรจะทำอะไร... ต่อไป เอวัง..