27 กันยายน 2556

ยายเปลี่ยนไป

ที่เกริ่นไว้ว่าต่อจากนั้นยายเปลี่ยนไป...เปลี่ยนไปอย่างไรน่ะหรือ

ต้องขอเท้าความก่อนว่า หลายๆ ครั้งเวลาเดินผ่านร้านผลไม้เราจะชอบชวนยายกินฝรั่ง แต่ยายจะพูดว่าไม่กินทุกครั้ง...จนเราแอบเข้าใจไปเองแล้วว่ายายคงฟันฟางไม่ค่อยดีแล้วก็อาหารแข็งลำบาก (แซว) ก็กินกล้วยหอมก็ได้ มันต้มบ้าง เชอรี่ สตอเบอรี่ เคี้ยวง่ายตามใจแกไปเรื่อย

แต่หลังจากเหตุการณ์ลื่นล้มในห้องน้ำครั้งนั้นแกก็เปลี่ยนเป็นคนที่คลั่งใคล่ฝรั่งอยากน่าสงสัย
พอถามแกก็ตอบว่า ฝรั่งมันอร่อยนี่ ฉันชอบกิน

แล้วเมื่อก่อนชวนไม่เห็นกินเลย...เราแย้ง
ก็ไม่อยากกินแต่ตอนนี้จะกิน...แล้วก็ลอยหน้าลอยตาเดินไปอย่างมั่นใจในความสวย

ช่วงนั้นแกซื้อฝรั่งกินหมดไปเป็นสวนๆ เลย แถม collagen ที่ขายกันแกก็ไปซื้อมา ไอ้ตอนนี้แหละที่แกหลอกชวนเราไปฝั่งธน แล้วบอกว่าจะไปซื้ออาหารเสริมให้แม่ของแก...แต่แท้ที่จริงแกไปเอา collgen ที่สั่งซื้อไว้

ยารักษาแผลเป้นทุกชนิดขนขบวนมาโป๊ะอยู่ที่ห่างตาแก
แต่ก็นับว่าได้ผลน่ะ เพราะแกกว่ารอบช้ำใต้ตาหายเร็วกว่าปกติที่ให้เวลาเป็นเดือน ส่วนแผลเป็นก็เรียบร้อยดี ฝีมือเย็บเนียนมาก จนแทบไม่เห็นฝีเข็ม

แล้วตอนนี้ แผลนั้นก็จมลงไปอยู่กับตีนกาที่หางตาแกอย่างกลมกลืน พร้อมกับพฤติกรรมการซื้อฝรั่งที่ฝั่งแน่นในจิตสำนึกของแก ระหว่างที่นั่งพิมอยู่นี้เราก็ยังได้อานิสงค์จากฝรั่งของแกมีเคี้ยวเพลินระหว่างพิมพ์ไปด้วย....ต้องขอบคุณยายมากๆ ค่ะ

แผลที่อื่นไม่เจ็บเท่าที่หน้า

เมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
ที่ทำงานมีงานประชุมและก็ออกทัศนศึกษาพื้นที่ทำงานด้วย เรากับยายจุ๋มก็ไปด้วย และพักอยู่ห้องเดียวกัน
โรงแรมที่พักเป้นโรงแรมเล็กๆ แต่อยู่เกือบกลางเมือง ออกไปเดินเล่นรับแสงสียามราตรีได้สบายๆ เรากับยายกินข้าวเย็นเสร็จก็พากันเดินแกว่งแขนออกไปช๊อปในเซ็นทรัล ได้โยเกิร์ตกับมาคนละถ้วยแล้วก็ขนมคนละห่อ

ถึงห้องพักยายก็ขออาบน้ำก่อนเพราะแกร้อนมาก เหงื่อย้อยไปถึงตาตุ่มแล้วแกบ่น เราจึงขอล้างหน้าแป๊บแล้วเอาโยเกิร์ตป้ายหน้าเล่นระหว่างนั่งดูการ์ตูน วันนี้ทีวีมีมนต์สะกดเรามาก เพราะเรานั่งดูอย่างมีความสุข โดยไม่แอบไปเคาะห้องน้ำเรียกยายเล่นเหมือนแต่ก่อน จำไม่ได้ว่านานแค่ไหน

ยายเปิดประตูห้องน้ำออกมา ภาพที่อยู่ตรงหน้าคือผ้าเช็ดตัวสีขาวที่เปรอะไปด้วยเลือด ยายว่า ยายเลื่อนล้มในห้องน้ำ...เราอยากให้มันเป็นเรื่องอำ แต่มันไม่ใช่เพราะเลือดมันท่วมหน้ายายไปหมด เรารีบโทรไปขอรถข้างล่าง แล้วเอาเสื้อผ้าให้ยายใส่ พยุงเดินลงไปที่รถ แล้วดิ่งไปโรงพยาบาล

ระหว่างรอหมอทำแผล ยายก็เรียกเราไปคุยบอกว่าหมอจะเย็บแผลให้ แกหน้าซีด ร้องไห้ เราเข้าใจว่าแกคงตกใจ และก็กลัว ส่วนเราก็ตกใจไม่แพ้แกเหมือนกัน

หมอเย็บแผลให้แก 4 เข็ม ปิดแผลให้สวยงามจ่ายเงินไปเฉียด 4000 บาท พอเห็นว่าแกพอทำใจได้ เราก็เลยถามแกไปว่า จริงๆ ที่ร้องไห้เนี่ย เพราะแผลมันเป็นที่หน้าใช่ไหม ถ้าเป็นที่อื่นคงไม่ขนาดนี้



ก็พยักหน้า อย่างยอมรับ เรายังแอบกั้นหัวเราะไว้แถมไม่อยู่ เพราะแอบนึกอยู่ตั้งแต่ตอนที่พาแกไปโรงพยาบาลล่ะ...

รุ่งขึ้นก็ก็บินกลับกรุงเทพด้วยกับใบหน้าที่เขียวช้ำ และต่อจากนั้นมาแกก็เปลี่ยนไป (เปลี่ยนไปอย่างไรเดี๋ยวมาเล่าต่อ)



ยายจุ๋มพากินเค้ก La buguette

เรื่องกินเนี่ย..เรื่องใหญ่ แต่เรื่องอร่อยอ่ะ ใหญ่กว่า
ยายจุ๋มแกจะชอบกินเค้กมากเป็นพิเศษ (ดูเหมือน) เวลาแกไปไหนจะต้องเสริชหาร้านอาหาร ร้านขนมที่อร่อยๆ เตรียมเอาไว้ เที่ยวนี้ก็เหมือนกัน ร้านที่แกเตรียมไว้ก็คืน La buguette ร้านเค้กฝรั่งเศษ หน้าตาร้านดูดี หน้านั่ง เค้กก็น่ากินมาก ราคาสมเหตุสมผล

ก่อนเข้าร้านขอถ่านรูปหนึ่งแชะ เป็นการทำความคุ้นเคยกับร้านแล้วก็ค่อยๆ ย่างเข้าไป เราไม่ค่อยชอบกินขนมฝรั่งเพราะคุ้นลิ้นอยู่กับพวกขนมชั้น ขนมต้ม เม็ดขนุน ซะมากกว่า แต่แกว่าอร่อยก็เลยต้องลองตามไปดูสักครั้ง (เป็นคนขับรถให้แก....ซึ่งก็จะถูกอบรมไปตลอดทางว่าห้ามขับแบบนี้ ให้ขับช้าๆ อย่าแทรกแบบนี้ แบบนั้น)

ร้านนี้มีกาแฟหอมกรุ่ม แต่เราไม่ได้สั่งมาลองเพราะที่ไปกินกาแฟไม่เป็นสักคน ก็เลยมีแต่เค้กและก็มูส และก็เครปไก่แสนอร่อย บวกกับเครื่องดื่มชนิดปั่นอีกคนละแก้ว




น้องมายด์กินด้วยความเอร็ดอร่อย ส่วนยายจุ๋มก็ทำเหมือนเคย คือ ชิมแล้วก็ยุ ให้เอามาอีกซิ นั่นก็อร่อย นี่ก็อร่อย
พอบอกให้ยายกินก็ว่า อิ่มแล้ว ลึกๆ คือกว่าโรคอ้วนนะ เอิ้ก พูดถึงเรื่องนี้นึกขึ้นได้เรื่องหนึ่งเดี๋ยวเล่าต่อตอนหน้า..ละกัน

20 สิงหาคม 2556

คนกินไม่ต้องแบก

ฉันคิดว่าฉันถูกหลอกใช้...

เมื่อก่อนฉันมีเพื่อนที่ไปกินข้าวด้วยกัน แต่ไม่นานหลายๆ คนก็แยกย้ายกันไปมีตำแหน่งหน้าที่การงานต่างๆ กัน ฉันยังอยู่ที่เดิม

ยายเข้ามาในชีวิตฉันเพราะเพื่อนกินข้าวของเธอออกต่างจังหวัด

ยามเย็นก่อนกลับโทรจะโทรมาให้ฉันช่วยไปกินขนมที่เธอกินเหลือๆ ให้หมดจากตู้เย็น เธอชวนฉันไปเดินเล่น เพราะต้องการให้ฉันชวนถือข้าวของ..ขาช๊อปอย่างเธอ สองมือของฉันมันยังไม่พอช่วยขน

ในเช้าวันหนึ่ง...ฉันมีคอร์สเรียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์จึงต้องรีบไปเรียนโดยยังไม่ได้ไปกินข้าวกับแก
ยังไม่ทันที่จะเปิดเครื่องคอมเสร็จก็มีเสียงโทรศัพท์ ดังขึ้น
ยายโทรมาทำไม...
ลงมาที่ร้านผลไม้หน่อยสิ...น้ำเสียงวิงวอนน่าเห็นใจ

ฉันรีบวิ่งลงไปไม่ใช่เพราะอาการกระวีกระวาดอย่างช่วยเหลือนะคะ แต่เพราะอยากรักษาความรู้สึกยาย..และจะได้รีบกลับมาเรียนด้วย
กล่องสีน้ำตาลขนาด 5 กิโลกรัมตั้งอยู่..ไม่ต้องเดาก็รู้ว่ากล่องนี้แน่ๆ ที่ทำให้ยายโทรหาในเช้านี้
ฉันแบกเชอรรี่ สีม่วงลูกเล็กทีอัดแน่นกันอยู่ในกล่อง 5 กิโลเพื่อให้ยายแบ่งไปเป็นของฝากสวัสดีปีใหม่
คนละกิโล ครึ่งกิโล

แต่ยายก็ยังใจดีมีเชอรรี่เหลือๆ มาให้ฉัน 4-5 เม็ดแทนคำขอบใจ..แถมตบท้ายว่าฉันเก็บไว้ให้เธอนะ..เดี๋ยวจะว่า "คนกินไม่ได้แบก คนแบกไม่ได้กิน"

ยายชวนซื้อยาให้แม่

ยายจุ๋มใกล้จะเกษียนอายุราชการเข้าไปทุกที แต่ที่แกกังวลไม่ใช่เรื่องการเกษียณหรอกน่ะ แกกังวลเรื่องใบหน้าเสียมากกว่า และแกมักจะชอบมาเล่าให้ฟังว่ามีคนคิดว่าแกเป็นพี่สาวของลูกชายบ้างอะไรแบบนั้น และทุกครั้งแกจะแช่มชื่นมาก
เช่นเดียวกับบ่ายวันนี้ แกเดินเข้ามาอย่างน่าสงสัย พร้อมกับเอ่ย

ฉันอยากจะชวนเธอไปซื้อยาให้แม่ฉันหน่อย..ยายจุ๋มส่งเสียงขอร้อง
หร้อมกับบอกเสร็จสรรพว่ามันอยู่ตรงไหน...ไปอย่างไร

โอโฮ้ ไกลจังเลยอะยาย..ฉันบ่นกลับ
สถานที่ที่จะไปเอายาอยู่ฝั่งธน ฉันเคยไปกี่ครั้งนะหรอ..นับนิ้วมือข้างเดียวไม่หมด
แต่ก็ต้องยอมไปเป็นเพื่อน และถ้าจะพูดให้ถูกต้องก็ไปเป็นคนขับรถให้แกดีดีนั่นเอง
เลี้ยวซ้าย..เลี้ยวขวา..ขึ้นสะพาน เจอถนนสร้างใหม่ ฝนตกลงมาอีก
1 ชั่วโมงกว่าผ่านไป...............

ทำไมมันไกลจังค่ะ..ฉันถาม
ยายไม่ตอบ..แต่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาคุยกับใคร..ที่ดูเหมือนจะเป็นคนที่ร้าน..เรียบเรียงได้ความว่ายายก็ไปไม่ถูกเหมือนกัน

ถ้าไกลแบบนี้ฉันไม่มาหรอก..ยายบ่นบ้าง
เมื่อใกล้จะถึงฝนก็ยังกระหน่ำไม่หยุด ฉันแนะนำให้ยายโทรให้คนที่ร้านเอายามาให้ริมถนนเลยจะได้ไม่ต้องหาที่จอดรถอีก

และแล้วเราก็ได้กล่องสีชมพู ราคา 1,830 บาทมานอนอยู่ในรถ
เห็นแว่ปเดียวก็รู้ว่าคนอายุ 83 ปีคงไม่กินสิ่งนี้เป็นยาแน่นอน

ยายมาซื้อยาของตัวเองใช่ไหม...ทำไมต้องหลอกด้วยอ่ะ..แล้วนี่มันก็คอลลาเจน
จะกินให้สาวไปเป็นนางสาวไทยที่ไหนเนี่ย....

ฉันคิดว่าเธอรู้แล้วซะอีก..ยายพูดพร้อมกับหัวเราะระลอกใหญ่ด้วยความสุขใจ ส่วนฉันก็นั่งเซ็งขับรถฝ่าฝนกลับบ้าน....เท่านั้นเอง


8 สิงหาคม 2556

ยายจุ๋มกับปัญหาเรื่องการแปรงฟัน

ยายจุ๋มกับปัญหาเรื่องการแปรงฟัน พูดแบบนี้ยายจุ๋มมาอ่านมีกริ้วแน่ๆ ที่ต้ังหัวข้อแบบนี้ ที่จริงต้องเพิ่มอีกหน่อยว่ามันคือปัญหาเพราะเรื่องการแปรงฟันของแม่แกนั่นละ การดูแลคนแก่ที่เริ่มมีอาการเลอะเลือน เชื่อว่าต้องอาศัยทั้งความใจเย็นและความเข้าใจอย่างมากที่เดียว ยายจุ๋มเองเคยเล่าให้ฟังว่าแม่ของแกเริ่มจะมีอาการลืมเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น แต่กลับจำเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อนานหลายปี แถมยังคิดว่ามันเป็นเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นอีกต่างหาก

บทสนทนาในเช้าวันนึง
ที่ฉันต้องออกมาทำงานช้าเนี่ยรู้ไหมว่าเพราะอะไร.....ยายจุ๋มพ่นใส่หน้าเราแบบไม่ยั้ง

เอ๊ะ..นี่มันอะไรกัน (เรางง) แค่ถามว่าทำไมมาทำงานสายเท่านั้นเอง

แต่เอาเฮอะ ปล่อยให้แกระบายต่อจะได้สบายใจไม่เป็นทุกข์เพราะอึดอัด เดี๋ยวก็จะพาลไปถึงเรื่องอื่นๆ อีก

เมื่อเช้านี้นะ ฉันจะพาแม่ (แม่ของยายจุ๋มนะคะ) ไปหาหมอ (อ่อ..ลืมบอกแม่แกอายุประมาณ 30...เย้ยยย ไม่ใช่ 80 กว่าๆ แกว่าความจำยังดี อ่านหนังสือชัดไม่ต้องใช้แว่นตาขยายอีกต่างหาก น่าไปสัมภาษณ์มาทำ how to)

แม่แปรงฟันรึยัง...ฉันถามนะ..ว่าแม่แกแปรงฟันรึยัง ยายจุ๋มว่า (อันนี้พูดแบบที่ยายจุ๋มคุยกับเรานะ)

แล้วรู้ไหมแก (หมายถึงเรานะ) แม่ฉันบอกว่าแปรงแล้ว ยายจุ๋มว่า..พร้อมกับพูดต่อว่า แต่ฉันไปหยิบแปรงดูแปรงมันยังแห้งสนิทอยู่เลย ฉันก็เลยให้แม่ไปแปรงฟันใหม่ แกก็บอกว่า...ฉันแปรงแล้ว แปรงแล้วอยู่นั่นแหละ..

ยายจุ๋มต่อ ไหนละแปรงของแม่..ยายจุ๋มถาม
ไม่รู้... แม่ยายจุ๋มตอบกลับ

แปรงยังแห้งอยู่เลยเนี่ย...แล้วแม่แปรงตอนไหน ยายจุ๋มพูดเสร็จ

แม่แกก็เกิดอาการฟิวขาด จับแปรงสีฟันจากมือยายจุ๋ม เขวี่ยงออกไป แล้วแกก็เดินตามไปกระทืบๆ แปรงสีฟันซ้ำๆๆ ในทันที

ยายจุ๋มว่า...ฉันยืนดูแล้วก็เลยเรียกเจ้าหัวขวานลูกชายสุดเลิฟมาดูด้วยความตลก.........

ก็อย่างนี้แหละกว่าฉันจะพาแม่ไปส่งบ้านพี่ชาย และก็มาทำงานได้..ยายจุ๋มพูดปิดท้าย...เหนื่อยเป็นบ้าเลย




7 สิงหาคม 2556

ยายอ่านขายหัวเราะ

ขายหัวเราะเดี๋ยวนี้มันไม่ตลกแล้วน่ะ....เสียงยายจุ๋มส่งมาทางเรา
เราแอบหัวเราะ...พร้อมกับแซวไปว่า...ยายอายุเกินจะอ่านแล้วรึเปล่า

เขานอนหนุนตักฉันแล้วหลับไปแถมกรนอีกต่างหาก.....ยายอ่านคำโปรยหน้าปกให้เราฟัง
ดูดีเนี่ยมันตลกตรงหน่าาายยอ่ะ

แล้วเสียงแกก็เงียบไปพร้อมกับปรากฎภาพนี้





แกกำลังเพ่งอ่านอย่างขมีขมัน..หวังว่าแกคงไม่ได้แอบเอาปกขายหัวเราะห่อสูตรเคมีอยู่น่ะ ถึงได้ขึงหน้าเครียดซะขนาดนั้น

ย้อนกับไปเมือหลายปีที่แล้วลูกชายหัวศิลป์ของแก เคยอาศัยปลายปากกาตวัดวาดการ์ตูนส่งลงขายหัวเราะได้รายได้เดือนละหลายบาทอยู่นะ...แต่ตอนนี้ลูกแกผันตัวเองไปทำอาชีพอื่นไม่ได้เขียนการ์ตูนแล้ว แต่แกก็ยังเป็นแฟนการ์ตูนขายหัวเราะต่ออย่างเหนียวแน่น พร้อมกับแอบเสียดายความสามารถของลูกแกอยู่นิดๆ



ซื้อมันต้ม...แต่แอบชิมถั่วต้มด้วย

ตลาดเช้าหน้าโรงจอดรถ มีร้านขายผลไม้ ถั่วต้ม ขนม กาแฟ ชา โกโก้ร้อน เย็น และระยะหลังมีการเพิ่มยอดขายด้วยการนำน้ำผลไม้ตามฤดูกาลมาปั่นด้วย

ยายจุ๋ม..เป็นบุคคลสำคัญที่สามารถเพิ่มยอดขายให้กับบรรดาแม่ค้า แม่ขายได้เป็นอย่างดีอีกหนึ่งราย
และเวลายายเดินผ่านก็จะมีเสียงไล่ตามราวกับเป็น echo ช่วยซื้อหน่อยค่ะพี่จุ๋ม จุ๋ม จุ๋ม จุ๋มมมมมมๆๆ แบบนี้ตลอดทางด้วยความเก่า และความเก๋า ร้านไหนที่แก่หยุดเลือกของ รายไหนรายนั้นเป็นต้องได้รับเงินจากแกไม่มากก็น้อย

และวันนี้ยายจุ๋มก็หอบหิ้วถุงพลาสติกพะรุงพะรัง แต่ไม่มากเท่าไหร่ เพราะที่เยอะมันอยู่ในมือเราหมด
ยายจุ๋มหยุดกึก..ลงตรงร้านขายถั่วต้ม แล้วส่งสายตามาเป็นนัยว่าอยากได้อีกสักถุงจะยังหิ้วไหวไหม
เราส่งสายตากลับไปว่า อย่านะ...นิ้วจะหลุดอยู่แล้ว

อ่อ..แม่ค้าจ๊ะ เอามันต้มถุงหนึ่ง พร้อมกับหันมาถามเราว่าเอาถั่วต้มไหม ระหว่างนั้นมือแกก็หยิบถั่วต้มมาเก็บไว้ในมือ แล้วส่งเงินให้คนขาย รับถุงมันต้มเดินออกมาจากร้าน...พร้อมกับยกมือขึ้นแกะถั่วต้มกินอย่างมีความสุข

เฮ้ย..เอาถั่วต้มเขามาด้วยเหรอ.. เราร้องทัก
อ่อ..ขอชิม 2 อัน

ยายจุ๋มให้แม่แปรงฟัน

ที่ฉันต้องออกมาทำงานช้าเนี่ยรู้ไหมว่าเพราะอะไร.....ยายจุ๋มพ่นใส่หน้าเราแบบไม่ยั้ง

เอ๊ะ..นี่มันอะไรกัน (เรางง) แค่ถามว่าทำไม่มาทำงานสายเท่านั้นเอง

แต่เอาเฮอะ ปล่อยให้แกระบายต่อจะได้สบายใจไม่เป็นทุกข์เพราะอึดอัด เดี๋ยวก็จะพาลไปถึงเรื่องอื่นๆ อีก

เมื่อเช้านี้นะ ฉันจะพาแม่ (แม่ของยายจุ๋มนะคะ) ไปหาหมอ (อ่อ..ลืมบอกแม่แกอายุประมาณ 30...เย้ยยย ไม่ใช่ 80 กว่าๆ แกว่าความจำยังดี อ่านหนังสือชัดไม่ต้องใช้แว่นตาขยายอีกต่างหาก น่าไปสัมภาษณ์มาทำ how to)

แม่แปรงฟันรึยัง...ฉันถามนะว่าแม่แกแปรงฟันรึยัง (อันนี้พูดแบบที่ยายจุ๋มคุยกับเรานะ)

แล้วรู้ไหมแก (หมายถึงเรานะ) แม่ฉันบอกว่าแปรงแล้ว ยายจุ๋มว่า..พร้อมกับพูดต่อว่า แต่ฉันไปหยิบแปรงดูแปรงมันยังแห้งสนิทอยู่เลย ฉันก็เลยให้แม่ไปแปรงฟันใหม่ แกก็บอกว่า...ฉันแปรงแล้ว แปรงแล้วอยู่นั่นแหละ..

ยายจุ๋มต่อ ไหนละแปรงของแม่..ไม่รู้ แม่ยายจุ๋มตอบกลับ

แปรงยังแห้งอยู่เลยเนี่ย...แล้วแม่แปรงตอนไหน ยายจุ๋มพูดเสร็จ

แม่แกก็เกิดอาการฟิวขาด จับแปรงสีฟันจากมือยายจุ๋ม เขว้งออกไป แล้วแกก็เดินตามไปกระทืบๆ แปรงสีฟันซ้ำๆๆ

ฉันยืนดูแล้วก็เลยเรียกเจ้าหัวขวานลูกชายสุดเลิฟมาดูด้วย ความตลก.........

ก็อย่างนี้แหละกว่าฉันจะพาแม่ไปส่งบ้านพี่ชาย และก็มาทำงานได้..ยายจุ๋มพูดปิดท้าย