15 ตุลาคม 2558

ความสำเร็จต้องการความสม่ำเสมอ



ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่เกิดจนเติบโต เรายอมรับตรงนี้เลยว่าส่วนใหญ่เลือกใช้ชีวิตไม่ชิดขวาก็ติดซ้าย....เพียงเพราะอยากทุ่มเทให้กับอะไรเป็นเรื่องๆ...แต่ความสนใจของเรามันมีอายุสั้น เราชอบทิ้งและตัดสินว่ามันไม่สำเร็จ แล้วต่อมา..อีก 1 ปี 2 ปี 5 ปี ก็มีคนทำสำเร็จ พอเราไปอ่านประวัติเรื่องราวของเค้า...เฮ้ย เค้าเริ่มพร้อมๆ กันกะเราเลย แล้วเราก็มานั่งเสียดายเวลาที่ผ่านไป พร้อมกับการเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ กับสิ่งที่คิดว่ามันจะดี สิ่งที่คิดว่ามันจะเหมาะกับเรา แล้วสุดท้ายก็ยังกำความสำเร็จอะไรไม่ได้สักอย่าง เพราะเราไม่สม่ำเสมอต่อความสนใจใดๆ เลย


เมื่อ 2 เดือนที่แล้ว ได้เจอเพื่อนเก่าในงาน Thailand research expo  มันคือก้าวแรกที่เราออกไปฟังสัมมนาข้างนอก ซึ่งพบว่างานนี้ได้ทำให้เราได้เห็นวิธีการทำงานที่แตกต่างจากที่เราพบเจอในหน่วยงานของเรา ข้อดี ข้อต่าง


อีกสิ่งหนึ่งคือเพื่อนที่เราไม่ได้เจอกันนานมาก เค้ามาทางสายธุรกิจเต็มๆ มีฟาร์มเป็นของตัวเอง และที่น่าสนใจคือเค้าหาความรู้อยู่ตลอดเวลา 

กบในกะลา, ยายจุ๋ม
แต่เราสิ..เป็นกบในกะลา..สนใจและพบเจออยู่แต่เรื่องในวงการตัวเองจนคิดว่านี้เป็นโลกทั้งใบ และถ้าเป็นธุรกิจล่ะ มันเป็นเรื่องที่ไกลแสนไกลจากความนึกคิดจนไม่เคยนึกถึงมันเลย พอคิดอยากทำอะไรขึ้นมาก็กลัวว่าถ้าสำเร็จแล้วจะต้องเหนื่อย มีลูกน้องให้ต้องรับผิดชอบ เกิดเบื่ออยากเลิกกิจการขึ้นมาล่ะ จะทำอย่างไร แต่ถ้าไม่สำเร็จก็จะกลายเป็นคนตกงานไม่มีรายได้ โลกแคบสุดๆ เลยใช่ไหมล่ะ?  เพราะเรามาสายรับจ้างไง สมองก็ถูกฝังชิพไว้ให้คิดแต่การทำงานพื่อให้ได้เงิน  เป็นมนุษย์เงินเดือน...มีเงินเก็บเพราะการออม ออมยังไม่พอก็ขอผ่อน จ่ายดอกเบี้ยกันไป ไม่เห็นอนาคตเบ่งบานหรอก แค่พอจะนึกออกว่ามันจะเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ เงินเดือนที่เพิ่มเพียงเล็กน้อย สอดคล้องกับค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นขนานกันไป...แบบนี้มันเรียกว่ามั่นคงแล้วใช่ไหม?  ถ้าเกิดมีเหตุการณ์ให้ต้องตกหลุมตกร่องล่ะ?


การได้คุยกันกับเพื่อนเพียงเล็กน้อย แต่มันเหมือนคำใบ้ให้เราเข้าไปเจอกับสิ่งที่เราไม่เคยคิดถึง เราหาหนังสืออ่าน ดูบล๊อก ดูบทความที่หลายๆ คนเขียน เพื่อนบอกยังไม่พอ เธอควรจะออกไปฟังสัมมนา ไปดูว่าคนอื่นเค้ามีวิธีคิด วิธีทำกันอย่างไร แล้วผลที่ได้เป็นอย่างไร สิ่งที่เธอกำลังคิดจะทำอ่ะ คนอื่นเค้าล้มกันมาก่อนแล้ว.....อึ้งไหมล่ะ??


คำพูดนี้ทำให้เราย้อนกลับไปถึงเรื่องราวที่เราเคยอ่าน...เค้าบอกเวลาที่เราคิดอะไรได้ คนอื่นก็คิดได้ แล้วถ้าโทมัส อัลวาเอดิสันประดิษฐ์หลอดไฟไม่สำเร็จ เราก็จะได้ยินชื่ออื่นที่เป็นผู้ประดิษฐ์หลอดไฟแทน เพราะฉะนั้นไม่ว่าเราจะคิดอะไร...มันไม่ได้เป็นสิ่งแรกที่ยังไม่เคยมีใครคิดหรอก...เฟสบุ๊คประสบความสำเร็จ แต่ไม่ใช่รายแรกที่ทำ มีอีก 5 จ้าวที่ทำเช่นกันแต่เฟสบุ๊คสำเร็จกว่า


ที่เราเขียนวันนี้เพราะเราอยากจะบอกให้เพื่อนๆ ที่เข้ามาเจอหน้านี้สม่ำเสมอและหาความรู้กับสิ่งที่ตัวเองสนใจ ถึงแม้มันจะยังไม่เกิดประโยชน์ในตอนนี้ แต่มันจะเกิดประโยชน์แน่ๆ ในสักวันนึง ขอแค่เราไม่ทิ้งมันแล้วมันก็จะไม่ทิ้งเราไปไหนเช่นกัน และถ้าหากเพื่อนๆ มีแนวคิดที่ดีๆ อยากแบ่งปันกันไว้ตรงนี้..ก็ขอรับไว้ด้วยความยินดีเช่นกันค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น